วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559

การจัดสิ่งถ่าย

การจัดสิ่งถ่าย



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การใช้อุปกรณ์แบบการถ่ายทำที่ถูกต้อง

               ในการถ่ายภาพนั้น ผู้ถ่ายภาพหรือช่างภาพควรจะสำรวจดูสิ่งที่ถ่าย (Subject) ให้มีความถูกต้อง น่าสนใจ ชวนมอง จะด้วยความงาม ความเด่นเป็นสง่า ท่าทาง เหมาะสมกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม พื้นฐาน(Foreground) พื้นหลัง (Background) ความเป็นธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นภาพบุคคล สัตว์ ดอกไม้ ต้นไม้ หุ่นนิ่ง อาคารสถานที่ ภายนอกและภายในอาคาร ฉาก วิวทิวทัศน์ ตลอดจนภาพเหตุการณ์ต่างๆ ถ้าสามารถจัดได้ก็ควรจะจัดให้ดูดีก่อนที่จะถ่ายทำซึ่งโดยภาพรวมแล้ว จะพิจารณาถึง


1. ทำเลที่ตั้ง หรือสถานที่ถ่ายทำ (Location)

          โดยปกติแล้วสถานที่ถ่ายทำ มักจะถูกเลือกขึ้นมาว่า สมควรถ่ายทำ ณ ตำแหน่งใด เวลาไหนควรถ่ายทำอย่างไร ทิศทางภาพจะอยู่อย่างไร ทำเลที่ตั้งควรเลือกสถานที่อย่าให้มีความหวาดเสียวมีอันตราย หรือลำบากมากเกินความจำเป็นในการถ่ายทำ








ภาพพระอาทิตย์ตกสะท้อนเงาน้ำ 



2. พิจารณาแสงสว่าง (Lighting)

           ในการถ่ายภาพหรือเขียนภาพ แสงเงาจะมีส่วนทำให้ภาพมีความน่าสนใจได้เป็นอย่างดี เพราะแสงเงาทำให้ภาพมีความหนาบางเกิดมิติ มีความลึก (Perspective) บ่งบอกรายละเอียด (Detail) และแสดงถึงลักษณะพื้นผิว(Texture) ของวัตถุได้ แสงสว่างที่ใช้ในการถ่ายภาพ อาจจะอาศัยแสงจากดวงอาทิตย์ที่เป็นแสงธรรมชาติ ซึ่งภาษาที่ใช้ในการถ่ายภาพเรียกเป็น เดย์ไลท์ (Daylight) หรือเป็นแสงจากดคมไฟ ที่เราจัดขึ้นในห้องถ่ายทำ (Studio) ไฟตามอาหาร ตามท้องถนน หรือแสงไฟจากแฟลช (Flash light) แสงเงาจากแหล่งต่างๆ ให้ความเข้มในการส่องสว่างแตกต่างกัน จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันได้ชัดเจน แม้แต่ช่วงระยะเวลาที่แตกต่างความรู้สึกที่ได้จากแสงสว่างก็แตกต่างกัน

            ในการถ่ายภาพเราจะพิจารณาดูแสงสว่างว่าเหมาะสมกับลักษณะของภาพที่เราต้องการหรือไม่ จุดมุ่งหมายของการถ่ายภาพนี้คืออะไร เมื่อเราเข้าใจสถานที่ หรือทำเลที่ตั้งในการถ่ายทำ พิจารณาเลือกแสงให้เหมาะสมกับเวลาที่เราต้องการ หรือมีอุปกรณ์อื่นๆช่วย เช่น แผ่นแสงสะท้อน (Reflector) หรือ แฟลชร่ม จะทำให้ภาพมีความนุ่มนวล








ภาพแสดงแสงตกกระทบวัตถุ 


3. สภาพแวดล้อมและบรรยากาศ

     อันที่จริงในการถ่ายภาพ ถ้าเราได้กำหนดสถานที่ เลือกทำเลหรือตำแหน่ง ประกอบการกำหนดช่วงเวลา ที่แสง – เงา จะพอดีแล้ว ก็สมควรจะถ่ายทำได้ แต่ในบางครั้งสภาพแวดล้อมและบรรยากาศอาจจะไม่เอื้ออำนวยก็เป็นได้ เพราะสภาพแวดล้อมอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศรอบข้าง อาจจะไม่เหมาะสมที่ถ่ายทำ

      สภาพแวดล้อมและบรรยากาศจะเป็นสิ่งที่เสริมแต่งให้ภาพมีความสมจริง เหมาะสมกลมกลืนกับเรื่องราวที่นำเสนอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเจตนาหรือจุดมุ่งหมายของการถ่ายทำ บางครั้งความสงบ ความเรียบง่ายก็เป็นบรรยากาศอีกมุมหนึ่ง แต่บางครั้งความสับสนวุ่นวาย ความรกรุงรังก็เป็นความสวยงามอีกมุมมองหนึ่ง ขึ้นอยุ่กับว่า ช่างภาพหรือผู้ถ่ายทำจะมีมุมมอง มุมกล้อง และจัดองค์ประกอบภาพได้ดีแค่ไหน หากว่าสามารถบันทึกความแปลก น่าทึ่งมีเป้าหมายหรือจุดมุ่งหมาย เข้าลักษณะของการจัดองค์ประกอบที่ดี ภาพที่ได้ย่อมจะมีคุณค่า


4. การจัดหรือการตกแต่งเพิ่มเติม


         คำพังเพยที่ว่า “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” นับได้ว่าเป็นรูปธรรมจริงๆเพราะการจัดและตกแต่งสำหรับการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว ยิ่งถ้าเป็นโทรทัศน์การถ่ายทำบทละคร หรือการแสดงต่างๆ จะมีการเสริมแต่ง (Make-up) ตัวละครหรือผู้แสดงเพื่อให้มีสีสันที่เด่นออกมาจากพื้นหลัง การเกิดภาพของโทรทัศน์ เป็นเรื่องของแสง หากแสงมากเกินไป (Over-exposure) ภาพที่ได้ก็จะขาว เมื่อเป็นเช่นนี้ต้องมีการเสริมแต่ง แต่งหน้า เขียนตา ทาปาก แม้กระทั่งตัวละครที่เป็นผู้ชายก็ต้องแต่งหน้าเช่นกัน ภาพออกมาก็จะดูดี

        การถ่ายทำภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว หากเป็นภาพวิวทิวทัศน์ เป็นธรรมชาติอยู่ในตัวเองไม่ต้องจัดหรือตกแต่งเพิ่มเติมก็ได้ เพียงแต่หามุมมอง หามุมกล้องเลือกที่จะถ่ายทำตามที่ช่างกล้องพอใจ แต่ในบางครั้งก็มีส่วนประกอบบางอย่างมาทำให้ภาพที่จะถ่ายทำนั้นขาดความน่าสนใจหรือเกิดความรู้สึกที่ไม่น่าดู จะมีการจัดหรือตกแต่งเพิ่มเติม

       การตกแต่งหรือเสริมแต่ง เป็นความละเอียดอ่อนของช่างภาพแต่ละคน การจะมีความคิดสร้างสรรค์มีจินตนาการหรือมีอารมณ์ในเชิงศิลปะ ย่อมจะสร้างหรือถ่ายทำภาพออกมาได้แตกต่างกัน

    จะเห็นได้ว่าลีลา และศิลปะในการถ่ายทำ การเลือกหาความน่าสนใจจากรูปภาพที่จะได้มีความหลากหลาย และกว้างไกลมาก นอกจากความเป็นช่างภาพที่มากด้วยประสบการณ์เป็นคน ช่างสังเกต เป็นนักพัฒนา มีความคิดสร้างสรรค์ที่ดี แล้วมีความมีศิลปะอยู่ในตัวเองของช่างภาพแต่ละคนจะช่วยสร้างให้ผลงานเป็นที่พอใจมากยิ่งขึ้น









                                         ภาพการใช้พื้นหน้า (Foreground)


5. การใช้อุปกรณ์


              ในการถ่ายภาพให้บรรลุผลตามที่ได้คาดหวังหรือวางจุดมุ่งหมายไว้นั้นนอกจากจะพิจารณาทำเลที่ตั้ง คำนึงถึงแสงเงา ประกอบกับการจัดตกแต่งให้เหมาะสมกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมและได้บรรยากาศที่ดีแล้ว กระบวนการในการปฏิบัติงาน ก็ควรจะมีความสะดวก มีความคล่องตัวสูง ด้วยเหตุนี้ช่างภาพก็ควรจะต้องมีการตระเตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่จะช่วยเอื้ออำนวยความสะดวกและจะช่วยทำให้การถ่ายภาพนั้นบังเกิดผลดี วัสดุอุปกรณ์ที่จะช่วยได้ตรงตามความต้องการมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของภาพที่จะถ่ายทำ เช่น




การถ่ายภาพบุคคล

                   อาจจะเตรียมแผ่นสะท้อนแสง(Reflector) เตรียมฉากสำหรับเกลี่ยแสงเตรียมโคมไฟเพิ่มเติมบ้าง ซึ่งลำพังนายแบบหรือนางแบบที่จะถ่ายทำ ก็จะต้องจัดเตรียมเครื่องแต่งตัว แต่หน้า ทำผม และเสื้อผ้า อาจจะเตรียมไปหลายๆชุด

                การถ่ายภาพบุคคล ไม่ว่าจะเป็นภาพเด็ก ภาพวัยรุ่น ภาพคนชรา ในอากัปกริยาต่างๆศูนย์สนใจของภาพ ก็จะขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายในการถ่ายทำ ถ้าหากลำพังการพิจารณาวันที่แตกต่างกันภาพก็จะแสดงออกหรือนำเสนอในแง่ของความแตกต่างที่เป็นลักษณะเด่น






ตัวอย่างการถ่ายภาพบุคคล 

การถ่ายภาพด้วยการใช้เลนส์เทเลโฟโต้
      การถ่ายภาพระยะไกล หรือการถ่ายที่ใช้เลนส์เทเล (Tele-lens) จะปรับความชัดได้ลำบากมากภาพมีโอกาสไหว เพราะช่วงความชัดของเลนส์เทเลมีน้อยมาก ทางออกที่ดีหรือช่างภาพนิยมกันก็คือใช้ขาตั้งกล้องช่วย (Tripod) ภาพที่ได้ก็จะมีความนิ่ง มีความคมชัดดีขึ้น

การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ หรือเพื่อผลพิเศษของภาพ
      การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ อาจจะมีช่วงเวลาให้เราเลือกถ่ายได้ตามที่ต้องการ อาจเป็นช่วงตอนเช้ามีหมอกปกคลุม หรือพระอาทิตย์กำลังขึ้นมาจากยอดเขา การถ่ายสิ่งก่อสร้าง ให้เห็นความเข้มของแสงที่ตัดกันเด่นชัด ก็ควรถ่ายตอนที่แสงจ้า เช่น ตอนบ่าย ภาพที่ให้บรรยากาศของวิวทิวทัศน์ที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า
    การถ่ายทำภาพเหล่านี้ บางครั้งช่างภาพอาจเสริมแต่งด้วยการใช้แว่นกรองแสงหรือ
ฟิลเตอร์ (Filter) เข้ามาช่วยเพื่อให้เกิดผลพิเศษ เช่น พื้นภาพเปลี่ยนสีออกไปจากเดิม ปรับเปลี่ยนหรือแก้การสะท้อนแสงของโลหะ หรือใช้เกลี่ยให้ภาพเกิดสีสันที่นิ่มนวลขึ้น

การถ่ายทำในตอนกลางคืน
      การถ่ายภาพในตอนกลางคืน อาจจะเป็นการถ่ายภาพกิจกรรมต่างๆ เช่น งานเลี้ยงฉลองงานแต่งงาน งานเลี้ยงสรรสรรค์ โดยทั่วไปแล้วจะเป็นต้องใช้แฟลช (Flash light) ช่วย ปัจจุบันนี้มักเป็นอิเล็กทรอนิกส์ แฟลช เพราะจะมีความสะดวกและทำให้คุณภาพของสีแสงเป็นธรรมชาติการใช้แฟลชหรือบางคนเรียกว่าไฟแวบ ช่วยในการถ่ายภาพ นอกจากจะใช้ตอนกลางคืนแล้วบางครั้งสามารถมาใช้ลบเงา ในกรณีถ่ายภาพบุคคลในตอนกลางวันได้อีกด้วย อุปกรณที่จำเป็นมากก็คือขาตั้งกล้อง(Tripod)
เพราะภาพลักษณะนี้ใช้เวลาถ่ายทำนานครั้งละหลายๆนาที ไม่มีใครจะถือกล้องถ่ายทำได้

       จะเห็นได้ว่าการใช้อุปกรณ์ประกอบในการถ่ายภาพมีความจำเป็นมาก ช่างภาพควรจะรู้จักเลือกและใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสมตามลักษณะของภาพที่ต้องการถ่ายทำ ช่างภาพที่มีความชำนาญหรือมีประสบการณ์มานาน จะมีอุปกรณ์ต่างๆ มากมาย มีการเตรียมการและเลือกใช้อุปกรณ์ได้ดีด้วยเหตุนี้คุณภาพที่ได้หรือผลงานที่ออกมาจึงมีความหมาย มีความสวยงาม น่าประทับใจทำให้ภาพนั้นๆมีคุณค่ายิ่งขึ้น
















การถ่ายภาพกลางคืน (Night Shot)


อ้างอิง : http://www.edu.nu.ac.th



20 เคล็ดลับน่ารู้ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้สวยยิ่งขึ้น

20 เคล็ดลับน่ารู้ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้สวยยิ่งขึ้น

เคล็ดลับการถ่ายรูป


              ฝึกถ่ายรูปทุกวัน

             แน่นอนว่าอาจฟังดูเป็นเรื่องยากสักหน่อยที่จะต้องมาถ่ายรูปทุกวัน เพราะไหนจะมีงานประจำที่ต้องทำอีก จะให้แบกกล้องมาออฟฟิศด้วยก็ยังไงอยู่ ถ้างั้นหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวคุณดูสิ ถ่ายตอนไหนก็ได้ที่มีโอกาส เพราะมันช่วยขัดเกลาฝีมือและมุมมองของคุณให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ยังไงล่ะ 

เคล็ดลับการถ่ายรูป
ภาพจาก petapixel

               เรียนรู้การตั้งค่าการใช้งานกล้อง

             นอกจากมุมมองและเทคนิคส่วนตัวที่จะช่วยให้ภาพออกมาสวยงามตามต้องการแล้ว การตั้งค่าต่าง ๆ ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญมากเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง ทั้งเรื่องความไวแสง ความเร็วชัตเตอร์ และค่า f เป็นต้น โดยคุณอาจถามเพื่อนที่ถ่ายรูปเก่งหรือช่างภาพที่รู้จักก็ได้ จากนั้นก็อยู่ที่คุณเองแล้วล่ะว่าจะเข้าใจการทำงานของกล้องได้ดีขนาดไหน

              เปลี่ยนมุมมองบ่อย ๆ  

            โดยปกติแล้ว มุมมองของคนจะอยู่ในระดับสายตา ทำให้หลายคนถ่ายรูปออกมาได้แต่มุมมองเดิม ๆ ซึ่งภาพเหล่านั้นอาจจะดูสวยงาม แต่ก็คงทำให้รู้สึกเบื่อกับความจำเจได้เหมือนกัน หากคุณรู้สึกเช่นนั้นกับอยู่ ให้ลองเปลี่ยนมุมมองของตัวเองดู เช่น เงยหน้า ก้มหน้า ย่อตัวลงเล็กน้อย เบี่ยงตัวไปข้าง ๆ นิดหน่อย หรือจะขึ้นไปถ่ายภาพบนตึกสูง ก็จะช่วยให้ภาพถ่ายของคุณดูแปลกตาและน่าสนใจขึ้นมากเลยทีเดียว 

เคล็ดลับการถ่ายรูป

              ศึกษาภาพถ่ายของคนอื่น

             การเรียนรู้จากภาพถ่ายสวย ๆ ของช่างภาพหรือของเพื่อน ๆ เป็นเรื่องทีดี เพราะคุณสามารถมองเห็นว่าภาพเหล่านั้นมีความแตกกับภาพของตัวเองอย่างไร เพื่อที่จะหาจุดบกพร่องและนำไปแก้ไขปรับปรุงให้การถ่ายภาพครั้งต่อไปดียิ่งขึ้น

              หัดใช้ฮิสโตแกรม 

             ฮิสโตแกรม (Histogram) คือกราฟิกที่อยู่ในกล้องดิจิตอลหรือโปรแกรมแต่งภาพอย่าง Adobe Lightroom ที่จะแสดงจำนวนพิกเซลจริงของความสว่างในภาพว่ามากหรือน้อยเกินไปไหม เพราะหลายครั้งคุณคิดว่าภาพที่เห็นบนจอ LCD หลังกล้องนั้นสวยงามแล้ว แต่พอเอาลงคอมพิวเตอร์เพื่อดูภาพจริง ๆ กลับได้แสงที่ไม่พอดี ดังนั้นควรหัดอ่านและใช้ฮิสโตแกรมให้คล่อง ก็จะทำให้ได้ภาพที่สวยงาม

              ถ่ายไฟล์ Raw หรือ Jpeg. ความละเอียดสูง

             เรียกได้ว่าไฟล์ Raw เป็นรูปแบบของภาพที่ให้รายละเอียดครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่หากคุณไม่มีกล้องที่รองรับไฟล์ดังกล่าวได้ ถ้างั้นลองปรับเป็นไฟล์ Jpeg ที่มีความละเอียดสูงสุดก็ได้เหมือนกัน แล้วคุณจะทึ่งกับรายละเอียดของภาพที่ถ่ายออกมา ชนิดที่คุณอาจไม่เคยสังเกตมาก่อนเลย

เคล็ดลับการถ่ายรูป
ภาพจาก photovideoedu
              จัดองค์ประกอบภาพอย่างพิถีพิถัน

             การจัดองค์ประกอบภาพที่ดี ช่วยให้คุณได้ภาพสวย ๆ ได้ไม่ยาก โดยคุณต้องรู้กฎการจัดองค์ประกอบภาพพร้อมกับคอยสังเกตว่าช่างภาพเก่ง ๆ เขาจัดองค์ประกอบภาพอย่างไร ถึงได้ภาพที่ดูดี จากนั้นก็นำมาประยุกต์ใช้กับการถ่ายภาพของตัวเอง

              ใส่ใจกับกรอบรูป

             ก่อนที่จะลั่นชัตเตอร์ทุกครั้ง คุณควรแน่ใจก่อนว่ามุมต่าง ๆ ในกรอบสี่เหลี่ยมที่คุณเห็นในช่องมองภาพนั้น เป็นอย่างที่ตัวเองต้องการหรือเปล่า ถ้ารู้สึกว่าทุกอย่างลงตัวแล้ว ก็จัดเลย รับรองว่าภาพแจ่ม ๆ ไม่หนีไปไหนแน่นอน แต่หากว่ายังไม่พอใจ ก็ลองเปลี่ยนมุมถ่ายก็ได้

              เลือกฉากหลังที่เหมาะสม 

             สิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการถ่ายภาพก็คือฉากหลังที่เหมาะสม ให้อารมณ์ที่ต้องการ และกลมกลืนกับวัตถุหลัก โดยเฉพาะการถ่ายภาพบุคคลหรือพอร์ทเทรต ซึ่งฉากหลังต้องช่วยเสริมให้คนในภาพโดดเด่นขึ้น เพราะต่อให้คนดูดีขนาดไหน แต่ถ้าฉากหลังมีสิ่งรบกวนเต็มไปหมด ก็อาจทำให้ภาพออกมาไม่สวยเท่าไร

เคล็ดลับการถ่ายรูป
ภาพจาก zeiss

              เตรียมตัวให้พร้อม 

             คงมีหลายครั้งที่คุณอยากถ่ายภาพเฉย ๆ โดยไม่ได้คิดว่าจะถ่ายอะไรที่เฉพาะเจาะจง จึงหยิบกล้องและเลนส์มาน้อย พอไปเจอมุมสวย ๆ มี่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่างอื่นช่วย เช่น แฟลช เลนส์ หรือขาตั้งกล้อง ก็อาจทำให้พลาดโอกาสที่จะถ่ายภาพดี ๆ ได้ ฉะนั้นควรเตรียมอุปกรณ์และวางแผนให้พร้อมเสมอก่อนออกไปถ่ายภาพ

              ฝึกเทคนิคพื้นฐานของการใช้กล้อง

             เทคนิคพื้นฐานต่าง ๆ ทั้งวิธีถือกล้อง การยืนขณะถ่ายภาพ และการหายใจเมื่อปล่อยชัตเตอร์ ล้วนแต่มีความสำคัญแทบทั้งสิ้น เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างความแตกต่างให้กับภาพถ่ายได้มากเลยล่ะ ดังนั้นควรฝึกเทคนิคพื้นฐานเหล่านี้ไว้ให้คล่อง ก็จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการใช้กล้องให้ได้มากขึ้นแล้ว

              แสงเป็นสิ่งสำคัญ 

             บางคนอาจยังไม่รู้ว่าแสงเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญในการถ่ายภาพไม่แพ้สิ่งอื่น ๆ เพราะถ้าถ่ายในช่วงที่แสงไม่เป็นใจ ก็จะได้ภาพที่ไม่สวย ทางที่ดีคุณควรมองหาแสงสวย ๆ จากแหล่งต่าง ๆ เช่น แสงของดวงอาทิตย์ แสงสะท้อนจากวัตถุต่าง ๆ และเงา เป็นต้น

เคล็ดลับการถ่ายรูป

              อดทนเข้าไว้

            บางคนคงสงสัยว่าทำไมตัวเองถึงถ่ายภาพได้ไม่สวยเหมือนที่คนอื่นได้ ทั้งที่ถ่ายมุมเดียยวกัน นั่นอาจเป็นเพราะว่าคุณไม่มีความอดทนมากพอ ซึ่งช่างภาพส่วนใหญ่ต้องอดทนรอจังหวะที่ลงตัวเป็นเวลานาน เพื่อที่จะได้ภาพที่สวยงาม ดังนั้นควรรู้จักอดทนรอจังหวะดี ๆ ไว้บ้าง

              อย่าแบกของหนักเกินไป

             การแบกกระเป๋ากล้องหนัก ๆ ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยสักนิด หากคุณไปถ่ายรูปคนเดียวโดยไม่มีผู้ช่วย เพราะความหนักของอุปกรณ์จะคอยฉุดรั้งให้เสียเวลา จนพลาดจังหวะดี ๆ ได้ แถมจะทำให้ปวดเมื่อยอีกต่างหาก

              วิเคราะห์ภาพเก่า ๆ ของตัวเอง

             เมื่อคุณถ่ายภาพได้มากระดับหนึ่งแล้วให้ลองมานั่งดูว่าภาพที่เคยถ่ายนั้น มีความผิดพลาดตรงไหนหรือเปล่า เพื่อที่จะได้หาวิธีแก้ไขสำหรับการถ่ายภาพครั้งต่อไปให้ออกมาดียิ่งขึ้น

              คิดคอนเซปต์ของตัวเองบ้าง

             หากคุณรู้สึกเบื่อกับการถ่ายภาพเรื่อย ๆ แบบไม่มีจุดหมายแล้วละก็ ลองคิดคอนเซปต์การถ่ายภาพให้ตัวเองสักอัน ว่าคุณต้องการภาพแนวไหน มีรายละเอียดอย่างไร อยากเล่าเรื่องราวแบบใด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความกระตือรือร้นในการถ่ายภาพให้คุณได้มากเลยทีเดียว 

เคล็ดลับการถ่ายรูป

              หัดใช้โปรแกรมแต่งภาพ

             การที่จะถ่ายภาพให้ออกมาสวยหลังกล้องทันที เป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ ทำให้ตากล้องส่วนใหญ่หันมาใช้โปรแกรมแต่งภาพนั่นเอง ซึ่งคุณก็ควรศึกษาและหัดแต่งรูปของตัวเองด้วยโปรแกรมต่าง ๆ เพื่อให้ออกมาสวยงามตามใจชอบ 

              หาสไตล์ของตัวเองให้เจอ

             ถ้าช่วงแรกของการถ่ายภาพ ทำให้คุณได้ภาพที่เหมือนคนอื่นก็ไม่แปลกอะไร เพราะนั่นเป็นสิ่งที่คุณจำมาจากการดูรูปของพวกเขายังไงล่ะ ซึ่งคุณควรปรับสไตล์การถ่ายภาพของตัวเองดู เพื่อหาแนวที่เหมาะที่สุดนั่นเอง

              ทดลองอะไรใหม่ ๆ 

             
              การทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ กับกล้องของคุณ โดยปรับค่าต่าง ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน อาจช่วยให้ได้ภาพถ่ายเฟี้ยว ๆ ไม่เหมือนใครก็เป็นได้ ซึ่งกล้องดิจิตอลมีการตั้งค่าต่าง ๆ มากมายให้ทดลองปรับ แถมช่วยให้คุณค้นพบเทคนิคการถ่ายภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย 

เคล็ดลับการถ่ายรูป

              สนุกกับการถ่ายรูป

             ถ้าหากคุณถ่ายภาพโดยปราศจากความสนุกแล้วละก็ ต่อให้ถ่ายยังไงหรือมีอุปกรณ์ราคาแพงแค่ไหน ก็ไม่ได้รูปที่สวยงามเลย ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าคุณอาจไม่ได้รักการถ่ายภาพจริง ๆ สักเท่าไร แต่ถ้าเอ็นจอยกับการหามุมมองใหม่ ๆ แฮปปี้กับการรอจังหวะในการถ่ายภาพอยู่เสมอ เราว่าคุณมาถูกทางแล้ว



อ้างอิง :http://men.kapook.com/
 

ตัดต่อวีดีโอง่ายๆ ด้วย Windows Movie Maker

ตัดต่อวีดีโอง่ายๆ ด้วย Windows Movie Maker


ขั้นตอนการทำ ขั้นตอนแรกเปิดโปรแกรม Windows Movie Maker
คลิกที่ Import video เลือกวีดีโอที่ต้องการ และคลิก Import
เมื่อคลิก Import แล้วรอสักครู่โปรแกรมกำลัง Import ไฟล์เข้ามา
หากเราเลือกมาหลายไฟล์ใน Collection จะแสดงเพียงแค่ไฟล์เดียว หากต้องการใช้ไฟล์อื่นให้คลิกด้านบน เพื่อเลือกไฟล์อื่นๆ
ในการตัดต่อวีดีโอ ให้ใช้มุมมองแบบ Timeline จากนั้นลากไฟล์วีดีโอลงมาใส่ใน Timeline
หากไฟล์วีดีโอใดเป็นนามสกุล .mpg บางครั้งในโปรแกรมจะตัดเป็นไฟล์ย่อยๆ ให้คลิกเลือกไฟล์ตามชื่อไฟล์และลากลงมาเรียงกันด้านล่างตามลำดับ
ระหว่างไฟล์แต่ละไฟล์จะมีส่วนที่ต่อกันแยกเป็นไฟล์ๆ
หากเรามองในมุมมองแบบ Storyboard เราจะเห็นไฟล์แต่ละไฟล์แยกกันอยู่ และระหว่างไฟล์แต่ละไฟล์เราสามารถที่จะใส่ Transition หรือรูปแบบการเปลี่ยนภาพได้ด้วย
การใส่ Transition ก็คลิกที่ View video transitions เลือก Transition และลากไปใส่
กลับมาที่มุมมองแบบ Timeline เราจะทำการตัดบางส่วนของวีดีโอที่เราไม่ต้องการออก เราจะต้องเพิ่มมุมมองให้มากขึ้นเพื่อให้สะดวกในการตัดบางส่วนของวีดีโอ ให้คลิกที่แว่นขยายที่มีเครื่องหมาย + เราจะได้มุมมองที่กว้างขึ้นใน Timeline
 
ขั้นตอนการตัดคือ เมื่อวีดีโอไปถึงช่วงที่เราต้องการตัด หยุดวีดีโอไว้ ให้เส้นบอกเวลา(ขีดสีฟ้าๆ)หยุดตรงจุดเริ่มที่เราต้องการตัดออก(สามารถเลื่อนได้โดยการคลิกเม้าส์หรือคลิกลากไป) เมื่อเส้นบอกเวลาอยู่ในจุดที่เราต้องการแล้ว ให้กดปุ่ม Ctrl และตัว L เพื่อตัดวีดีโอช่วงนั้น
เมื่อกดปุ่ม Ctrl และตัว L แล้ว วีดีโอจะถูกแบ่งออก จากนั้นเลื่อนเส้นบอกเวลาไปที่จุดสิ้นสุดที่เราต้องการตัด และกดปุ่ม Ctrl และตัว L
 
จะได้ช่วงวีดีโอที่เราต้องการตัดออก เอาเม้าส์คลิกที่ช่วงนั้นและกดปุ่ม Delete
วีดีโอส่วนนั้นก็จะถูกตัดออกไป จากนั้นก็ทำเช่นเดียวกันนี้กับส่วนอื่นๆ ที่เราต้องการตัด
หากเรากลับมาดูในมุมมอง Storyboard วีดีโอที่ถูกแบ่งแยกออกจากกัน สามารถที่จะแทรก Transition ลงไประหว่างวีดีโอได้ ในกรณีที่ไม่ได้ต้องการตัดวีดีโอออก แต่ต้องการแทรก Transition หรือ video effect เฉพาะช่วงใดช่วงหนึ่ง สามารถใช้เทคนิคการตัดวีดีโอออกจากกันเพื่อใส่ Transition หรือ video effect ในช่วงที่เราต้องการได้
การใส่ข้อความ เราสามารถที่จะใส่ข้อความลงบนวีดีโอได้ด้วย การใส่ก็เช่นเดียวกับใส่ข้อความธรรมดาที่ได้พูดไปแล้วตอนที่แล้ว ให้คลิกที่วีดีโอช่วงที่จะใส่ แล้วคลิก Make Title or cradits เลือกแบบที่ต้องการ
  • title at the beginning ใส่ตอนเริ่มวีดีโอ
  • title before the selected clip ใส่ก่อนหน้ารูปที่เลือก
  • title on the selected clip ใส่บนรูปที่เลือก
  • title after the selected clip ใส่หลังรูปที่เลือก
  • cradits at the end ใส่ Cradit ตอนจบวีดีโอ 
พิมพ์ข้อความ เลือก Animation โดยคลิกที่ Change the title animation เปลี่ยนสีข้อความแบบอักษรโดยคลิกที่ Change the text font and color ข้อความที่แทรกมาจะอยู่บนแถบ Title Overlay บน Timeline เราสามารถที่จะเลื่อนข้อความไปในตำแหน่งที่ต้องการ สามารถลดหรือขยายเวลาในการแสดงข้อความได้ โดยการนำเม้าส์ไปคลิกที่แถบข้อความนั้น ลากออกหรือเข้าเพื่อลดหรือขยายเวลาบนแถบตัวอักษร
เราสามารถที่จะแทรกข้อความได้ทุกช่วงของวีดีโอ และสามารถเลื่อนข้อความต่างๆ ไปในตำแหน่งที่เราต้องการได้
นอกจากนี้ตอนเริ่มและสิ้นสุดของวีดีโอ เราสามารถที่จะเลือก Fade In หรือ Fade Out เพื่อให้วีดีโอค่อยๆ Fade มา หรือ ค่อยๆ Fade หายไป นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใส่ video effect ในแต่ละช่วงของวีดีโอได้
จากนั้นเมื่อเสร็จสิ้นการทำวีดีโอแล้วบันทึกงานตามปกติ ไฟล์ที่ได้จะเป็นนามสกุล .MSWMM และการแปลงไฟล์เป็นไฟล์วีดีโอ ให้คลิกที่ Save to my computer
ตั้งชื่อและเลือกที่เก็บวีดีโอ จากนั้นคลิก Next (เอาภาพตอนที่แล้วมาเพื่อให้เห็นภาพ)
เลือกคุณภาพของวีดีโอ หากต้องการตัวเลือกอื่นๆ เพิ่มเติมคลิกที่ Shoe more choices
จะมีตัวเลือกให้เลือกเพิ่มเติม ซึ่งจะเลือกเป็นแบบกำหนดขนาดที่แน่นอนก็ได้โดยเลือกแบบ fit size หรือตัวเลือกอื่นๆ เสร็จแล้้วคลิก Next
จะทำการ Save รอสักครู่
เสร้จแล้วคลิกที่ Finish เป็นอันเสร็จ หากไม่ต้องการให้เล่นวีดีโอ ให้เอาเครื่องหมายถูกที่ Play movie when I click Finish. ออก ไฟล์วีดีโอที่ได้จะเป็นนามสกุล .wmv
ไม่ยากเลยค่ะ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์และทางเลือกง่ายๆ ในการตัดต่อวีดีโอนะคะ


อ้างอิง : http://bombik.com/